Skip to content Skip to footer

Déjà vu กับจักรวาลคู่ขนาน

เดจาวู (Déjà vu) เป็นปรากฏการณ์ที่คนรู้สึกเหมือนว่าพวกเขาเคยประสบสถานการณ์ปัจจุบันมาแล้ว ถึงแม้ว่ามันจะเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก มักถูกอธิบายว่าเป็นความรู้สึกถึงความคุ้นเคยกับปัจจุบัน กล่าวคือเหมือนกับว่ามันเป็นการทำซ้ำของประสบการณ์ในอดีต เดจาวูเป็นปรากฏการณ์ที่พบบ่อยและน่าสนใจ แต่สาเหตุแน่ชัดของมันยังไม่เข้าใจอย่างครบถ้วน
.
นักวิทยาศาสตร์สมอง และนักจิตวิทยาได้พยายามหาสาเหตุของการเกิดเดจาวูด้วยแนวคิด และทฤษฎีต่างๆ ดังนี้
.
1. ทฤษฎีที่เกี่ยวกับความจำ: บางนักวิจัยมีความเห็นว่าดีจาวูเกิดขึ้นเมื่อมีความไม่ตรงกันระหว่างข้อมูลทางสัมผัส และวิธีการที่สมองประมวลและเก็บรักษาความจำ กล่าวคือประสบการณ์ใหม่อาจถูกเก็บเป็นความจำชั่วคราวก่อนที่จะถูกรับรู้อย่างชัดเจน ทำให้เกิดความรู้สึกถึงความคุ้นเคย
.
2. ทฤษฎีการประมวลผลพร้อมๆ กัน: ทฤษฎีนี้เสนอว่าสมองประมวลข้อมูลผ่านหลายช่องทางพร้อมๆ กัน และเดจาวูอาจเกิดขึ้นเมื่อมีความล่าช้าหรือข้อขัดแย้งเล็กน้อยระหว่างการประมวลผลที่เกิดขึ้นหลายช่องทางเหล่านี้ ส่งผลให้มีความรู้สึกว่ากำลังประสบกับประสบการณ์ใหมอีกครั้ง
.
3. ทฤษฎีความจำแบบโฮโลแกรม: บางคนเสนอว่าดีจาวูเกี่ยวข้องกับแนวคิดเกี่ยวกับ “ความจำแบบโฮโลแกรม” ที่ที่ความจำไม่ถูกเก็บไว้ในลักษณะเชิงเส้นตรง แต่ถูกเชื่อมโยงกันในระบบที่ซับซ้อน ความเชื่อมโยงเหล่านี้อาจทำให้เกิดความรู้สึกถึงความคุ้นเคยในสถานการณ์ใหม่
.
4. ทฤษฎีเกี่ยวกับสมองส่วน Temporal lobe: บางนักวิจัยเชื่อว่าเดจาวูกับความผิดปกติในสมองส่วน Temporal lobe ซึ่งเกี่ยวข้องกับความจำและการรับรู้ และมีความเป็นไปได้ว่า หากคนที่มีประสบการณ์เดจวูบ่อยๆ มากกว่า 3 ครั้งต่อเดือน อาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติของแหล่งกำเนิดไฟฟ้าในสมอง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของโรคลมชักได้ ดังนั้นผู้ที่มีประสบการณ์เดจาวูบ่อยๆ ควรไปพบแพทย์ เพื่อเช็คความปกติของระบบประสาท
.
เดจาวูเป็นปรากฏการณ์ที่เชิงประสบการณ์ และสาเหตุของมันยังคงเป็นเรื่องที่กำลังศึกษากันอยู่ในสาขาจิตวิทยาและวิทยาศาสตร์สมอง

ในขณะที่นักฟิสิส์ควอนตัม มีคำถามหนึ่งที่ว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่า เราอาจจะสลับระหว่างจักรวาลที่แตกต่างกัน

ตัวอย่าง เช่น หากเราเชื่อว่ามีจักรวาลอีกจักรวาลหนึ่งอยู่ภายในห้องนั่งเล่นของเรา พวกเราคือคลื่น ซึ่งเป็นการสั่นสะเทือนที่กำหนดโดยฟังก์ชัน และคลื่นเหล่านี้จะสั่นสะเทือน ออกจากกันตามเวลา Steve Weinberg ผู้ได้รับรางวัลโนเบล เปรียบเทียบกับสิ่งต่อไปนี้ ให้คุณคิดถึงวิทยุ ถ้าคุณอยู่ในห้องนั่นแล้วฟังวิทยุช่อง BBC อยู่ แปลว่าวิทยุนั้นถูกตั้งค่าให้รับคลื่นความถี่หนึ่งได้ แต่ในขณะที่ห้องนั่งเล่นของคุณมีคลื่นอยู่เต็มไปหมด เช่น คลื่นวิทยุคิวบา คลื่นวิทยุมอสโคล คลื่นวิทยุเพลงร๊อค 40 อันดับแรก แต่วิทยุของคุณถูกจูนให้รับสัญญาณของช่อง BBC ได้เท่านั้น ในขณะนั้น

นั่นหมายความว่า เมื่อจักรวาลสองจักรวาลมีคลื่นการสั่นสะเทือนเฟสเดียวกัน มันมีความสอดคล้องกัน และคุณสามารถเคลื่อนที่ไป-มาระหว่าง จักรวาลทั้งสองได้ แต่เมื่อมีเวลาเข้ามาเกี่ยวข้อง คลื่นจากสองจักรวาลเริ่มมีความถี่ที่ไม่สอดคล้องกัน จักรวาลทั้งสองจึงไม่สามารถเชื่อมต่อกันได้อีก
.
แล้วทำไมวิทยุของคุณไม่สามารถฟังคลื่นวิทยุมอสโกได้ล่ะ ทำไมวิทยุของคุณไม่สามารถระับคลื่นความมถี่ทั้งหมดได้ในเวลาเดียวกัน นั่นก็เพราะว่าวิทยุของคุณถูกจูนออกจากคลื่นความถี่จากสถานีอื่น และไม่สามารถรับความถี่ร่วมกับความถี่อื่น ๆ ได้อีกต่อ เช่นเดียวกันในควอนตัมฟิสิกส์ เราประกอบด้วยอะตอม อะตอมของเราสั่นสะเทือน แต่พวกเขาไม่สั่นสะเทือนด้วยคลื่นความถี่เดียวกับตัวเราในจักรวาลอื่น ทำให้พวกเราหยุดเชื่อมต่อจากพวกเขา เราไม่สั่นสะเทือนร่วมกันอีกต่อไป
.
เมื่อนำเรื่องควอนตัมฟิสิกส์ มาเชื่อมโยงกับความเชื่อในเชิงจิตวิญญาณ จึงมีความเป็นไปได้ว่า จริงๆ แล้วมีจักรวาลอื่นๆ ที่อยู่รอบข้างเรา เดจาวูอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อที่ตัวตันของคุณในจักรวาลนี้มีความสั่นสะเทือนสอดคล้องกับตัวตนของคุณในอีกจักรวาลหนึ่ง ซึ่งคุณเคยอยู่เหตุการณ์ที่คุณไม่เคยเจอมาก่อนในจักรวาลนี้ แต่เกิดขึ้นแล้วในจักรวาลอื่น ทำให้คุณสามารถรู้สึกถึงความทรงจำบางส่วนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในจักรวาลอื่นได้

Alchemist Nook