Skip to content Skip to footer

สารสื่อจิตวิญญาณ DMT

DMT (N,N-Dimethyltryptamine) เป็นสารที่ถูกจัดอยู่ในสารที่ก่อให้เกิดอาการหลอนประสาท

DMT ตามธรรมชาติ ถูกพบในพืช และสัตว์หลายชนิด รวมถึงในมนุษย์ด้วย DMT ถูกนำมาใช้เป็นสารในยาที่มีผลทางจิตใจ ในพิธีกรรมทางศาสนาในแถบอเมริกาใต้กันมาแต่โบราณ สาร DMT เป็นที่รู้จักกันดี ในฐานะที่มีฤทธิ์รุนแรง แต่ออกผลหลอนประสาทในระยะเวลาอันสั้น DMT ถูกใช้เพื่อความสำราญทางจิต โดยการสูดดม ฉีด หรือบริโภค เมื่อฉีดหรือ ดมเข้าไป DMT สามารถออกฤทธิ์ได้นาน 5-15 นาที แต่เมื่อบริโภคพร้อมกับตัวยังยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ย่อยสลาย DMT จะช่วยทำให้ ฤทธิ์คงอยู่ได้นานถึง 3 ชั่วโมง หรือเป็นเดือน เช่น แถวป่าอเมซอน จะมีการดื่มเครื่องดื่มที่ผสม DMT จากพืชอะยาฮวอสก้า (Ayahuasca) เข้าตัวยังยั้งเอนไซม์ ทำให้ DMT ออกฤทธิ์รุนแรง และคงอยู่นานเป็นเดือน

นอกจากนี้ ยังมีการพบ DMT ในพืชหลายชนิด โดยมักมีโครงสร้างเป็นอนุพันธุ์ที่ใกล้เคียง ได้แก่ 5-methoxy-N,N-dimethyltryptamine (5-MeO-DMT) และ Bufotenin (5-OH-DMT)
5-MeO-DMT ถูกพบเป็นสารออกฤทธิ์หลักในพืช Virola bark resin ส่วน Bufotenin ถูกพบว่าเป็นสารออกฤทธิ์ที่มีอยู่ในเปลือก ต้น และฝักของ Anadenanthera peregrina (Yopo) และ Anadenanthera colubrina

นอกจากนี้ยังพบสาร Psilocin และ psilocybin ที่มีโครงสร้างที่คล้ายกับ DMT ใน Psilocybin mushroom (เห็ดเมา) อีกด้วย

ในปี 1931 นักเคมีชื่อ Richard Manske สามารถสังเคราะห์ DMT ขึ้นมาได้ ทำให้เกิดการใช้ DMT กันอย่างแพร่หลาย และกลายเป็นสารควบคุม ในยุค 1970 เพราะถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด และในปริมาณที่มีอันตรายต่อจิตใจ ในประเทศสหรัฐอเมริกา DMT เป็นสารเสพติดที่ผิดกฏหมาย ไม่ถูกพบว่านำมาใช้ในทางการแพทย์ แต่ถูกนำมาใช้ในงานวิจัยที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ในขณะที่ในบางประเทศ DMT ยังถูกนำมาใช้ได้อย่างถูกกฏหมายด้วยการสูดดม หรือบริโภค

ผลกระทบอย่างฉับพลันจากการใช้ DMT

1.ประสบการณ์การรับรู้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจรวมถึงการรับรู้สีเข้มขึ้นมากกว่าความเป็นจริง การรับรู้เสียงที่เป็นไปได้มากขึ้น การรับรู้การสัมผัสแม่นยำมากขึ้น เป็นต้น

2.การมองเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น หรือการรับรู้สิ่งที่ไม่มีอยู่จริง (ภาพหลอน)

3.Synesthesias หรือประสบการณ์การรับรู้ที่ผสมผสานกัน เช่น เชื่อว่าสามารถได้ยินสี มองเห็นเสียงได้ เป็นต้น

4.การเปลี่ยนแปลงทางสติปัญญาที่รวมถึงการบิดเบือน เช่น รู้สึกว่าตัวเองมีความคงกระพัน ว่าตัวเองกำลังออกจากร่าง ว่าสิ่งรอบข้างไม่เป็นจริง หรือว่าตัวเองกลายเป็นสิ่งอื่น (ตั้งแต่สัตว์ไปจนถึงสิ่งที่ไม่มีชีวิต)

5.การเปลี่ยนแปลงในการรับรู้เกี่ยวกับเวลา เช่น เวลาเคลื่อนไหวช้ามากกว่าความเป็นจริงนาทีอาจดูเหมือนชั่วโมง ชั่วโมงดูเหมือนวัน เป็นต้น

6.ความหลงผิดอย่างรุนแรง แสดงถึงความเชื่อที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากความเป็นจริง

DMT มีความอันตรายหรือไม่

DMT สามารถเป็นอันตรายได้ ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ส่วนบุคคล ในบางกรณีบุคคลนั้นอาจเห็นภาพหลอนที่สามารถทำให้เกิดอันตรายอื่นๆ ตามมาได้ ในกรณส่วนน้อยที่พบว่า DMT มีผลถึงชีวิต เช่น ระบบหายใจหยุดการทำงาน และโคม่า ที่อาจเป็นผลมาจากการใช้ DMT ร่วมกับสารอื่นๆ ในปริมาณสูง อันตรายจากการใช้ DMT ยังต้องได้รับการวิจัยต่อไป

5-MeO-DMT (5-methoxy-N,N-dimethyltryptamine)

5-MeO-DMT สารอนุพันธุ์ใกล้เคียงกับ DMT การศึกษาในปี 2019 จากยุโรปในอาสาสมัคร 42 คน พบว่า การสูดดมเพียงครั้งเดียว ส่งผลให้การพึงพอใจในชีวิต การบรรเทาความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า และอาการวิตกกังวลหลังจากประสบการณ์เครียด (PTSD) ดีขึ้น นอกจากนี้การศึกษาในปี 2018 ยังแสดงให้เห็นว่าการให้ 5-MeO-DMT กับหนูเพียงครั้งเดียว ส่งผลให้เกิดการปรับแต่งเซลล์พันธุกรรมสมองขึ้นอีกด้วย

5-MeO-DMT กำลังถูกพัฒนา และประเมินผลสำหรับผลกระทบทางการรักษาที่เป็นไปได้ในผู้ป่วยที่มีภาวะซึมเศร้าที่ดื้อดึงต่อการรักษา (Treatment-Resistant Depression หรือ TRD) ผู้ป่วยที่มีภาวะที่สองของโรคไบโพลาร์ และผู้ป่วยที่มีภาวะซึมเศร้าหลังการคลอด

5-MeO-DMT อาจเป็นความหวังในการรักษาโรคทางจิต และช่วยลดปัญหาความขาดแคลนทั่วโลกของนักจิตวิทยา

ปัจจุบัน DMT Breathwork เป็นที่นิยมมากในชาวตะวันตก เพื่อช่วยไปกระตุ้นการทำงานของต่อมไพเนียล และสร้าง 5-MeO-DMT ซึ่งเป็นอนุพันธุ์ของเมลาโทนิน เดิม Breathwork เป็นศาสตร์ตะวันตกที่ใช้รักษาสภาวะทางจิตใจ โดยจะให้ผู้เข้ารับการรักษาทำ Hyperventilation เพื่อจำลองสถานการณ์วิตกกังวลให้กับผู้ป่วย แต่แสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยยังมีความปลอดภัยทางร่างกาย

ในงานวิจัยเบื้องต้นพบว่า คนที่ฝึก Holotropic Breathwork เพื่อการบำบัดทางจิต สามารถลดความวิตกกังวลลงได้ และเพิ่ม self-esteem ให้กับตัวเองได้มากขึ้น และบางคนที่ฝึก Breathwork เพียงอย่างเดียว ยังสามารถมีความสามารถในการพึ่งพาตนเอง เข้าสังคม มีสติรู้เท่าทันตัวเอง และลดสภาวะวิตกกังวลได้

การรักษาแบบนี้เรียกว่าการรักษาแบบ Exposure เพราะผู้ป่วยได้ถูกจำลองให้อยู่ในสถานการณ์ที่ที่น่ากลัวที่สุดของชีวิต แต่ในสภาวะที่ปลอดภัย และควบคุมได้

นอกจาก Hyperventilation ที่นำมาใช้กับ Breathwork แล้ว ยังมีเทคนิคอีกอย่างหนึ่งที่หลายๆคน ไม่ได้พูดถึง คือ เทคนิคการกลั้นหายใจ ที่จะช่วยให้ผู้ฝึก DMT Breathwork สามารถกลั้นหายใจได้นานขึ้น โดยเข้าใจถึงสภาวะที่เกิดขึ้นกับร่างกายโดยหลักการทางวิทยาศาสตร์ ทำให้ไม่เกิดความกลัว และสามารถควบคุมตัวเองให้เผชิญหน้ากับการกลั้นหายใจที่นานขึ้น หรือสภาวะผิดปกติที่เกิดขึ้นระหว่างฝึกหายใจได้ ซึ่งจะทำให้การฝึก DMT Breathwork มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และสามารถช่วยให้ผู้ฝึกกลั้นหายใจได้นานถึง 3-4 นาที เลยทีเดียว

โดยเทคนิคการฝึกกลั้นหายใจนี้ ทาง Awaken Alchemist Academy มีผู้สอนคือ ครูนุ๊ก ครูสอนดำน้ำ และสอนฟรีไดฟ์ ที่สอนนักเรียนหลายคนให้สามารถกลั้นหายใจได้นานเกิน 3 นาที หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการเร่งกระบวนการเปิดตาที่สามด้วยการฝึกหายใจ คุณสามารติดต่อเราเพื่อเรียนฝึกหายใจ และฝึกกลั้นหายใจโดยตรงได้กับครู เพื่อที่จะได้นำเทคนิคไปใช้ได้อย่างถูกต้อง และปลอดภัย

ถึงแม้ในปัจจุบันยังไม่มีเครื่องมือที่วัดได้ว่า การฝึกหายใจจะกระตุ้นต่อมไพเนียลได้มากเพียงใด หรือต่อมไพเนียลของมนุษย์สามารถผลิต 5-MeO-DMT ได้แค่ไหน แต่หากคุณลองฝึก DMT Breathwork ด้วยตัวเอง คุณจะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และมีความรู้สึกเชื่อมต่อกับตัวตนภายในได้มากขึ้น ด้วยตัวคุณเอง

คลิปฝึกหายใจ DMT Breathwork สำหรับผู้เริ่มต้น:

Alchemist นุ๊ก